|
กระจายออกซิเจนให้มีค่าความเข้มข้นของออกซิเจนละลายน้ำอยู่เสมอทั่วทั้งบริเวณบ่อเติมอากาศ
พลังงานที่ใช้ในการกวนนี้จะต้องมีค่าพอเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
เพราะถ้ากวนน้อยเกินไป ตะกอนจุลินทรีย์ (Floc)
จะมีขนาดใหญ่เกินไป แต่ถ้ากวนแรงเกินไปก็จะเกิดแรงเฉือน (Shearing
Force) สูง จนทำให้จุลินทรีย์แตกกระจาย
เป็นผลให้ระบบไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร
เครื่องกลเติมอากาศแต่ละชนิดมีทั้งข้อดีและข้อเสียในด้านต่างๆ
ดังนั้นการออกแบบและประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศ จะต้องเข้าใจหลักการทำงาน
วิธีคำนวณ ตลอดจนเข้าใจถึงวิธีการทดสอบสมรรถนะในการถ่ายเทออกซิเจนลงไปในน้ำ (Performance
of Oxygen Transfer in Water)
หน่วยเป็นกิโลกรัมของออกซิเจน/แรงม้า-ชั่วโมง
วิธีการคำนวณหาจำนวนเครื่องกังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อใช้บำบัดน้ำเสียจากชุมชน
ก.
ข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัด
1. อัตราการไหลของน้ำเสีย (Q)
มีหน่วยเป็น ม3
/ วัน
2. ความสกปรกน้ำเสีย (BOD5)
มีหน่วยเป็น ม.ก/ลิตร
3. สมรรถนะในการถ่ายเทออกซิเจนของกังหันน้ำชัยพัฒนา
มีหน่วยเป็นกิโลกรัมของออกซิเจน/แรงม้า-ชั่วโมง
4. ขนาดแรงม้าของกังหันน้ำชัยพัฒนา
ข. ตัวอย่างการคำนวณ
สมมุติให้ อัตราการไหลของน้ำเสีย (Q)
=
300 ม3
/ วัน
=
300 x 1,000 กก.
/ วัน
สมมุติให้ความสกปรกของน้ำเสีย (BOD5)
= 250 x มก./ลิตร
=
250
กก.
1,000 x
1,000
ปริมาณออกซิเจนที่ต้องการ
= Q x BOD5
(BOD Loading)
\ปริมาณออกซิเจนที่ต้องการ
(BOD
Loading)
= 300 x
1,000 x 250 =
75 กก./วัน
1,000 x 1,000
หรือ
= 75
= 3,125
กก./ชั่วโมง
24
ในการติดตั้งจะต้องเผื่อปริมาณออกซิเจนที่ต้องการเป็น 2 เท่า ( 2x
3.125) = 6.25 กก./ชั่วโมง
สมมุติให้เครื่องกังหันน้ำชัยพัฒนามีสมรรถนะในการถ่ายเทออกซิเจนที่สภาวะมาตรฐานเท่ากับ
1.2 กก./แรงม้า-ชั่วโมง
กำหนดให้ ความเข้มข้นออกซิเจนในน้ำเสีย
=
2.0 ม.ก / ลิตร
อุณหภูมิของน้ำเสีย
= 30
º C
จะได้ประสิทธิภาพถ่ายเทออกซิเจน ที่อุณหภูมิของน้ำเสีย
30
º C
=
0.613
\กำลังม้าที่ต้องการใช้
=
ปริมาณออกซิเจนที่ต้องการ
อัตราการถ่ายเทออกซิเจนที่สภาวะใช้งาน
=
6.25
= 8.49 แรงม้า
0.7356
สมมุติให้กังหันน้ำชัยพัฒนา 1 เครื่อง
ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนขนาด 2 แรงม้า
\
จะต้องใช้กังหันน้ำชัยพัฒนา
=
8.49 =
4.24
2
สรุป :
กังหันน้ำชัยพัฒนาเป็นเครื่องกลเติมอากาศที่สร้างขึ้นมาภายในประเทศไทย แบบไทยทำ
ไทยใช้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานรูปแบบในการประดิษฐ์
จนกระทั่งสามารถนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมเป็นอย่างยิ่ง
กรมทรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์ ทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรเลขที่ 3127
แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2536
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กำหนดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันนักประดิษฐ์"
เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเป็นการสืบเนื่องจากการที่ได้รับสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 2
กุมภาพันธ์ 2536 นั่นเอง
อนึ่ง
ย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวข้างต้น
เป็นผลงานที่เกิดจากความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า
ซึ่งพระองค์ทรงมีประราชปณิธานแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ
ที่มีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของพสกนิกร
จนเป็นที่เลื่องลือไปถึงต่างประเทศถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพและพระวิริยะอันสูงส่ง
ในการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยส่วนรวม
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้นและทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักประดิษฐ์เจริญรอยจามเบื้องพระยุคลบาทในการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ
ก่อให้เกิดการพัฒนาอันจะนำไปสู่การพึ่งตนเองในอนาคต |
|