โรคหรืออาการที่สามารถช่วยบำบัดหรือบรรเทาได้โดยการอบสมุนไพร
-
โรคภูมิแพ้
-
โรคหอบหืดในระยะต้น เช่น เป็นหวัด น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก
-
ช่วยลดความเครียดได้บ้างซึ่งปัจจุบันความเครียดจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ
และยังช่วยให้นอนหลับได้สบายขึ้น
-
ใช้ในการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
ปัจจุบันมีการอบอาบสมุนไพร "ทำเพื่อการค้า" จะดัดแปลงวิธีการต่างๆ
เพื่อที่จะชักจูงบรรดาลูกค้าที่เป็นท่านชายที่ขี้เมื่อยมาใช้บริการโดยมีสาวๆ
แต่งตัวพิเศษนั่งในตู้กระจก เพื่อให้ท่านชายเลือกจะเอาคนไหน
ซึ่งหญิงสาวเหล่านี้ไม่ได้เรียนนวดมา แต่พอขยำได้
และสามารถปรนนิบัติอย่างอื่นได้ด้วย สถานอบอาบนวดลักษณะนี้จัดเป็น
"สถานบริการ" ไม่ใช่สถานพยาบาล
เพราะว่าไม่เป็นสาขาใดสาขาหนึ่งของการประกอบโรคศิลป์
ถือเป็นสถานเสริมสวย จึงไม่ต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
เมื่อเป็นการค้า ก็ย่อมนึกถึงผลกำไรเป็นส่วนใหญ่
บางแห่งมีการโฆษณาชวนเชื่ออย่างเกินความจริง เป็นต้นว่า
คนสูงอายุเนื้อหนังเหี่ยวย่นตามกาลเวลา (ยกเว้นคนอ้วนมากๆ)
เมื่ออบสมุนไพรครบจำนวนครั้งตามที่เขาบอกไว้
ก็จะมีเนื้อหนังเต่งตึง หรือ "คุณสาวๆ " จะรวมถึง "คุณหนุ่มๆ"
ด้วยก็ได้ ที่มีร่างกายตุ้ยนุ้ยเกินไป
ถ้าเข้าอบสมุนไพรแล้วรูปร่างก็จะงามระหง
การอบไอน้ำเป็นที่นิยมกันในหลายๆ ประเทศ เช่น ในประเทศญี่ปุ่น
เกาหลี ฯลฯ
เป็นการอบโดยใช้ความร้อนอย่างเดียวไม่มีสมุนไพรร่วมอยู่ด้วย สำหรับ
"การอบซาวน่า" ซึ่งเป็นการอบโดยใช้ความร้อนแห้ง
ในเมืองไทยจะมีสถานบริการที่ออกกำลังกายบริการอบชนิดนี้อยู่
วิธีการจะแตกต่างกับการอบอาบสมุนไพรของไทยที่ใช้ความร้อนชื้น
และไอน้ำที่ระเหยออกมา จะมีน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรต่างๆ
ที่มีคุณสมบัติบำบัด รักษา หรือบรรเทาอาการโรคต่างๆ ได้มากมาย
ดังนั้นจึงคิดว่า "การอบอาบสมุนไพร" ของไทยจะได้รับประโยชน์มากกว่า
ทั้งยังเป็นการใช้ทรัพยากรในบ้านเราให้เกิดประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
และยังช่วยเสริมอาชีพของคนไทยอีกด้วย
สำหรับการจัดเตรียมอบอาบสมุนไพรไม่ยุ่งยาก อาจทำเอง
หรือไปรับบริการจากสถานพยาบาลซึ่งราคาย่อมเยามาก
การจัดเตรียมห้องอบอาบสมุนไพร
-
ในบ้าน
-
สถานพยาบาล
การเตรียมการอบอาบสมุนไพรในบ้าน
-
หม้อต้มสมุนไพรขนาดใหญ่
-
เตา
-
สมุนไพรสด
-
การเตรียมกระโจม
4.1 โดยใช้สุ่มไก่ขนาดใหญ่
ใช้คลุมด้วยผ้าห่มให้เกือบมิด
เปิดช่องข้างบนไว้เพื่อให้มีการระบายอากาศ
4.2 ใช้ไม้ปักสามเส้าเหมือนกระโจมดินเดียนแดง
ใช้ผ้าห่มหรือเสื่อล้อมรอบ
โดยเปิดส่วนบนไว้ให้มีช่องระบายอากาศ
4.3 ใช้กระด้งใบใหญ่ๆ เจาะตรงกลาง และร้อยเชือก
แขวนไว้ให้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรเศษๆ ใช้ผ้าห่มล้อมกระด้ง
โดยชายผ้าห่มจรดพื้น
-
การเข้าอบอาบสมุนไพร
จะมีหลักเกณฑ์เหมือนกับการเข้าอบอาบสมุนไพรในสถานพยาบาล
แต่จะมีข้อแตกต่างอยู่ตรงที่การอบในบ้านจะเอาหม้อต้มสมุนไพรเข้าไปในกระโจม
(ของสถานพยาบาลจะต่อท่อให้ไอเข้าไปในห้องอบ)
เมื่อคนที่จะอบเข้าไปนั่งแล้วจากนั้นค่อยๆ เปิดฝาหม้อ
และโรยการบูร หรือพิมเสน ลงไปทีละน้อย ก้มหน้าสูดดมและรมควัน
ทำจนกว่าการบูรและพิมเสนจะหมด
การเตรียมห้องเพื่อใช้ในสถานบพยาบาล
(ใช้ได้ครั้งละ 3-5 คน)
-
ขนาดห้อง
กว้าง 2 เมตร ยาว 2.8 เมตร สูง 2 เมตร
-
พื้นและฝาห้อง ควรดูให้สวยงาม สบายตา ไม่ลื่น
สะดวกในการทำความสะอาด
-
มีพัดลมดูดอากาศออก
-
ประตูห้องควรมิดชิด แต่ไม่ล็อคกลอนจากด้านใน
และควรมีช่องกระจกที่สามารถมองจากภายนอกเห็นภายในได้
-
เครื่องใช้
|
สำหรับในห้อง
-
ม้านั่งยาว
1-2 ตัว
-
ทอร์โมมิเตอร์ วัดอุณหภูมิภายในห้อง
-
เครื่องวัดความชื้นภายในห้องอบ (80-100 เปอร์เซนต์)
-
ท่อต่อไอน้ำจากด้านนอกเข้ามาในห้อง
สำหรับนอกห้องอบ
-
นาฬิกาตั้งเวลา
-
เครื่องวัดความดันล
-
หูฟัง
-
เครื่องชั่งน้ำหนัก
-
เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย
-
น้ำและแก้วไว้ดื่ม
-
หม้อต้มน้ำสมุนไพรที่มีท่อต่อเข้าไปในห้องอบ
-
ห้องอาบน้ำมี
2 ห้องแยก ชาย-หญิง
|
|