ป่าชายเลน (Mangrove Forest
)
เป็นสังคมพืชที่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิดที่ไม่ผลัดใบหรือมีใบเขียวชอุ่มตลอดปี
(Evergreen Species)
มีลักษณะทางสรีระและความต้องการสิ่งแวดล้อมที่คล้ายกัน
พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ไม้สกุลโกงกาง (Rhizophora)
มักพบขึ้นอยู่บริเวณปากอ่าวชายฝั่งทะเลบริเวณเขตร้อนของโลก
(Tropical Region)
ซึ่งเป็นช่วงแผ่นดินบริเวณที่มีน้ำเค็มขึ้นสูงสุดและลงต่ำสุด
บางครั้งจึงเรียกว่า Intertidal
Forest สภาพแวดล้อมเช่นนี้
เป็นปัจจัยที่ทำให้ป่านี้แตกต่างไปจากป่าชนิดอื่นๆ |
ป่าชายเลน อุทยานแห่งชาติตะรุเตา |
ป่าชายเลน อุทยานแห่งชาติโบกขรณี |
ปัจจัยสิ่งแวดล้อมของป่าชายเลน
พรรณไม้ป่าชายเลนเป็นกลุ่มไม้ที่ต้องการแสงมาก
และสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชายฝั่งที่มีปริมาณฝนตกประมาณ
1,500-3,000 มิลลิเมตรต่อปี
แต่ก็สามารถขึ้นได้ในพื้นที่ซึ่งมีฝนตกสูงถึง 4,000
มิลลิเมตรต่อปี
ความถี่ของน้ำทะเลท่วมถึง
ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงก็มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงค่าความเค็มของน้ำบริเวณป่าชายเลน
กล่าวคือขณะที่น้ำขึ้น
ค่าความเค็มของน้ำจะสูงขึ้นและลดลงเมื่อลงด้วย
นอกจากนี้
การเกิดน้ำเกิดและน้ำตายก็ส่งผลให้ความเค็มของน้ำแตกต่างกันไปด้วย
คือ ช่วงน้ำเกิด
น้ำมีความเค็มสูงจะไกลเข้าสู่ป่าชายเลนเป็นระยะทางไกลกว่าช่วงเวลาที่เกิดน้ำตาย
อีกทั้งระยะเวลาการขึ้นลงของน้ำทะเล
ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นลงของน้ำทะเลแบบวันละครั้ง
ที่เรียกว่า แบบน้ำคู่หรือน้ำลงแบบผสม
ต่างก็มีอิทธิพลต่อลักษณะโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน
ลม
เป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศของป่าชายเลน
เนื่องจากลมมีอิทธิพลอย่างมากต่อความเร็วของกระแสน้ำและคลื่น
ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการพังทลายของดินชายฝั่งและต่อการแพร่กระจายของพันธุ์ไม้ |