หน้า   1    2    3

   


-3-
 

 
 

 

 แมลงป่องหางแส้ (Whip scorpion) อยู่ใน Class Arachnida Order Uropygi อาศัยอยู่ใต้ใบไม้ ของไม้ผุๆ กินแมลงเล็กๆ เป็นอาหาร

 

 

เหาหนังสือ (Booklice) ใน Order Psocoptera พบได้ตามกองหนังสือหรือตามพื้นดินชื้นๆ ใต้ใบไม้ ขอนไม้ผุๆ กินเชื้อรา ซากพืชสัตว์และสารอินทรีย์อื่นๆ

 

 
บน : แมลงหางดีด Order Collembala
กลาง : กิ้งกือ (Millipedes) ใน Class Diplopoda กินซากพืชเป็นอาหาร
ล่าง :  แมลงสองง่าม (Diplurans) Order Diplura กินซากพืชเป็นอาหาร

 

 

          ตัวอย่างสัตว์ในดิน 
          แมลงหางดีด พบได้มากมายหลายชนิด แมลงพวกนี้จะกินสารอินทรีย์ในดินเป็นอาหาร
          แมลงสองง่าม  จะกินซากพืชที่กำลังเน่าเปื่อยเป็นอาหาร มันจึงทำหน้าที่ในการย่อยสลาย
          เหาหนังสือ  มักกินส่วนที่เป็นเซลลูโลสเป็นอาหาร นั่นก็หมายความว่ามันเป็นผู้ย่อยสลายซากพืช
          เพลี้ยไฟระยะตัวอ่อน  จะอาศัยในดินและกินซากอินทรีย์สาร แต่เมื่อมันเจริญเป็นตัวเต็มวัย จะมีปีกและหันไปกินน้ำเลี้ยงของต้นพืชเป็นอาหาร ทำให้ต้นพืชต้นเล็กๆ ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ หรือบางครั้งมันยังทำหน้าที่เป้นพาหะนำโรคพืชได้หลายชนิด
          ตัวอ่อนของด้วงบางชนิด  อาจกินซากพืช ซากสัตว์หรือแม้แต่มูลของสัตว์บางชนิดเป็นอาหาร มันจึงเป็นตัวย่อยสารอินทรีย์สาร
          แมลงหางหนีบ  จะทำหน้าที่เป็นตัวห้ำ เป็นการควบคุมปริมาณสัตว์อื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า
          แมลงป่องเทียม  การกินกินอาหารเช่นเดียวกับแมลงหางหนีบ
          ไรในดิน  พบได้มากมายหลายชนิด หลายขนาด มันจะกินสารอินทรีย์ในดิน หรืออาจกินแมลงชนิดอื่นๆ เช่น ไข่ของแมลงหางดีด เป็นต้น

   

ตะขาบ (Centipedes) อยู่ใน Class Chilopoda เป็นตัวห้ำกินสัตว์ขนาดเล็กเกือบทุกชนิดเป็นอาหาร

แมลงป่องเทียม

 

          จากการศึกษาในพื้นที่ที่แตกต่างกันทางด้านกายภาพ จะพบสิ่งมีชีวิตแตกต่างกันทั้งชนิดและจำนวน ในบริเวณที่มีความชื้นเหมาะสม มีร่มเงา อุณหภูมิบนผิวดินไมร้อนจัดก็จะพบความหลากหลายของสัตว์หน้าดินและสัตว์ในดินสูงกว่าและจำนวนมากกว่าในบริเวณดินที่ไม่สมบูรณ์  เช่น ดินแห้งเกินไป อีกอย่างหนึ่งในบริเวณที่มีมีการสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น (check dam) ะเกิดการขังน้ำในบริเวณหลังฝาย ทำให้เกิดความชุ่มชื้นเป็นบริเวณกว้างและดินบริเวณนั้นจะมีความชุ่มชื้นนานจนกว่าน้ำในฝายจะแห้งลงจากการระเหยเพราะถูกแสงแดดแผดเผาหรือจากการที่น้ำซึมลงในดิน ในบริเวณที่ว่านี้จะสนับสนุนให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์
          ฉะนั้นในเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เราควรคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตเล็กๆ บนผิวดินและในดิน ด้วยการไม่ทำลายหน้าดิน โดยการใช้สารเคมีที่จะทำอันตรายต่อสัตว์หน้าดิน โดยการใช้สารเคมีที่จะทำอันตรายต่อสัตว์หน้าดินและในดินอย่างระมัดระวัง เช่น ยาฆ่าหญ้า สารกำจัดศัตรูพืช เป็นต้น ไม่ควรเทราดน้ำมันใดๆ ที่ใช้แล้วลงบนพื้นดิน ไม่ทำการเผาป่า เพราะความร้อนจะฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในบริเวณที่ไฟผ่านไป  ควรส่งเสริมการปลูกต้นไม้ ในที่รกร้างว่างเปล่า เพื่อให้เกิดความร่มเงาของต้นไม้และเกิดการพึ่งพาซึ่งกันและกัน เพราะสัตว์หน้าดินและสัตว์ในดิน จะทำให้เกิดวัฎจักรในการย่อยสลายของซากของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ให้เป็นธาตุที่จำเป็นแก่ต้นพืช และเมื่อพืชเจริญเติบโตขึ้นจนกระทั่งผลิดอกออกผล ก็จะยิ่งดึงดูดสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ให้เข้ามาสู่บริเวณนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งก็หมายถึงเกิดความหลากลายมากขึ้นตามไปด้วย
     
โลกของเราจะเกิดความอุดมสมบูรณ์และสวยสดงดงาม มนุษย์ก็จะมีความสุขตลอดไปนานแสนนาน

ที่มาของข้อมูล : จากยอดเขาถึงใต้ทะเล , โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 4 รอบพระชันษา , พฤษภาคม 2546