หน้า   1    2    3

 

 

 Burlese funnel เครื่องมือสกัดสัตว์จากดิน

 

 

ตัวกะปิ (wood lice) Class Crustacea Order Isopoda พบอยู่ใต้ใบไม้ บนพื้นดินที่ชื้นๆ กินซากพืชเป็นอาหาร

 

 

กิ้งกือ (Millipedes) Class Diplopoda อาศัยตามพื้นดินที่ชื้นๆ กินซากพืชเป็นอาหาร มีขนาดเล็ก และสีสันสวยงาม

 
 
 
 
 
 
 
 

 

 

          สัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตพอที่จะศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ชนิดสเตอริโอได้ ก็ให้ศึกษาได้โดยตรง แต่สำหรับสัตว์ที่มีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะศึกษาโดยตรงได้ ก็ให้นำมาทำสไลด์ในแก้ว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้วิธีง่ายๆ โดยนำมาเม้าท์ (mount) ด้วย Hoyer's Solution ปิดด้วยแผ่นแก้วปิดสไลด์ (cover glass) นำไปอบให้แห้งในตู้อบอุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4-5 วัน หรือจนกว่า Hoyer's Solution จะแห้งสนิท แล้วจึงนำมาศึกษาทางด้านอนุกรมวิธานภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายเพิ่มมากขึ้น ทำการถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป
          ในฤดูร้อน ถ้าอุณหภูมิของผิวดินสูงเกินไป โดยเฉพาะในตอนที่ยงหรือบ่าย ที่มีแดดจัด สัตว์หน้าดินก็จะหลบความร้อนโดยมุดลงไปใต้ดิน เนื่องจากใต้ดินจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าบนผิวดินเสมอ  พบว่าที่ใต้ดิน ลึกลงไปประมาร 5-10 เซนติเมตร จะมีอุณหภูมิต่ำกว่าบนผิวดิน 1-2 องศาเซลเซียส เวลาศึกษาสัตว์ในดินจึงต้องวัดอุณหภูมิและความชื้นของดินเสมอ สัตว์ส่วนใหญ่ มักจะอยู่ที่อุณหภูมิต่ำ และความชื้นที่เหมาะสม ดังนั้น บริเวณที่มีใบไม้ทับถมกันมากจึงเหมาะที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ในดิน
          จากการศึกษาพื้นที่ป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชุกุมารี จะพบชนิดและจำนวนของสัตว์ที่อยู่หน้าดินและสัตว์ที่อยู่ในดิน แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ในพื้นที่ที่มีความชื้น และอุณหภูมิเหมาะสม ตลอดจนมีความอุดมสมบูรณ์ของดินมาก ก็จะมีสิ่งมีชีวิตมากชนิด และแต่ละชนิด ก็จะมีจำนวนมากไปด้วย ส่วนในพื้นที่ที่มีคุณภาพต่ำลงมาก็จะมีชนิดและปริมาณของสัตว์น้อยลงตามลำดับ
ตัวอย่างสัตว์หน้าดิน
          มดชนิดต่างๆ  ทั้งมดดำและมดแดง มดต่างๆ เหล่านี้จะอาศัยอยู่บนดินบ้าง ในดินบ้าง หรือบางชนิดจะสร้างรังอยู่บนต้นไม้ มดเหล่านี้จะทำหน้าที่แตกต่างกันไป เช่น อาจเป็นตัวห้ำ โดยการกินสัตว์หรือแมลงอื่นๆ เป็นอาหาร บางชนิดกินแต่ผลิตภัณฑ์ของพืช เช่น น้ำหวาน ผลไม้ ใบไม้ เป็นต้น มดบางชนิดเป็นนักกินซาก
          ปลวกหลายชนิด  มักสร้างรังอยู่ในดินหรือบนดินโดยการสร้างเป็นจอมปลวกทั้งเล็กและใหญ่ ปลวกจะกินเนื้อไม้ที่ตายแล้ว ทำให้ไม้ที่ล้มในป่าผุพังเร็วขึ้น ทำให้วัฎจักรของพลังงานหมุนเวียนได้เร็วขึ้น ปลวกบางชนิดมีความสามารถที่จะเลี้ยงเชื้อราไว้ภายในรังของมันเพื่อเป็นอาหาร ในช่วงที่มีอากาศร้อนและมีฝนตกลงมา ราจะเจริญเติบโตเร็วเกินกว่าที่พวกมันจะกินได้ทัน ราเหล่านั้นก็จะงอกเป็นเห็ดให้เป็นอาหารของคนต่อไป
          แมลงสาบ  ที่พบบนผิวดินมักมีขนาดตัวเล็กกว่าแมลงสาบที่พบตามบ้านเรือนประมาณหนึ่งในสามหรือหนึ่งในสี่ แมลงสาบเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการกินซาก ทั้งซากพืชและซากสัตว์ แต่ส่วนมากแล้ว จะชอบกินซากสัตว์มากกว่า
          จิ้งหรีด  ที่พบมักเป็นจิ้งหรีดขนาดเล็กกว่าจิ้งหรีดที่นำมากัดกัน จิ้งหรีดเหล่านี้จะมีสีทึมๆ ไม่สวยงามเท่าจิ้งหรีดทั่วไป มันจะกินเมล็ดพืชซึ่งกำลังจะแตกยอดอ่อน จึงเป็นการทำหน้าที่ควบคุมมิให้มีต้นพืชเจริญเติบโตมากเกินไป มิฉะนั้นแล้วต้นพืชจะขึ้นหนาแน่นจนเกินไป และอาจเป็นภัยกับต้นพืชเองได้ภายหลัง ส่วนตั๊กแตน ซึ่งเป็นสัตว์กลุ่มเดียวกับจิ้งหรีดจะพบมากบริเวณป่าหญ้า
          ตัวกะปิ   จะกินซากใบไม้ที่กำลังเน่าเปื่อย จึงเป็นตัวทำหน้าที่ย่อยสลายในขั้นต้นๆ
          แมงมุม  พบได้หลายชนิด ส่วนใหญ่มักจะเป็นตัวห้ำ โดยการกินสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า
          แมงป่อง  และ แมงป่องหางแส้ จะกินสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เป็นอาหาร มันจึงเป็นหน้าที่เป็นตัวห้ำ
          ตะขาบ  และ ตะขาบฝอย  เช่นเดียวกับแมงป่อง มันจะเป็นตัวห้ำ
          กิ้งกือ และ กระสุนพระอินทร์  จะกินซากพืชและซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยแล้วเป็นอาหาร
          ไส้เดือน และ ไส้เดือนฝอย  จะกินซากพืชและซากสัตว์ที่กำลังกลายเป็นดิน เพื่อย่อยให้โมเลกุลเล็กลงไปอีก
          หอยบก มีมากมายหลายชนิด หอยเหล่านี้จึงกินอาหารได้หลายชนิดแล้วแต่ว่าเป็นหอยชนิดไหน จึงอาจทำหน้าที่ได้ทั้งเป็นตัวห้ำกินพืชหรืออาจเป็นตัวทำลายซาก