|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กลุ่มยาแก้บิด ท้องเดิน ท้องร่วง โรคกระเพาะ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
มังคุด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Garcinia mangostana L. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อสามัญ : Mangosteen |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วงศ์ : Guttiferae |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ต้น สูง 10 - 12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม
รูปไข่ หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 6 - 11 ซม. ยาว 15 - 25 ซม. เนื้อใบหนา
และค่อนข้างเหนียว คล้ายหนัง หลังใบสีเขียวเข้ม เป็นมัน ท้องใบสีอ่อน
ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบ ใกล้ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศ หรือแยกเพศ
กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สรรพคุณ : 1. รักษาโรคท้องเสียเรื้อรัง และโรคลำไส้ 2. ยาแก้ท้องร่วง ท้องเดิน 3. ยาแก้บิด (ปวดเบ่งและมีมูก และอาจมีเลือดด้วย) เป็นยาคุมธาตุ 4. เป็นยารักษาน้ำกัดเท้า รักษาบาดแผล 5. รสฝาด สมานแผล ใช้ชะล้างบาดแผล แก้แผลเปื่อย แผลเป็นหนอง ยาฟอกแผลกลาย ทาแผลพุพอง วิธีและปริมาณที่ใช้ 1. รักษาโรคท้องเสียเรื้อรัง และโรคลำไส้
ใช้เปลือกมังคุดครึ่งผล (ประมาณ
4-5
กรัม) ต้มกับน้ำ ความแรง 1 ใน 10
รับประทานครั้งละ 1 ถ้วยแก้ว
2. ยาแก้อาการท้องเดิน ท้องร่วง ใช้เปลือกผลมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำปูนใส หรือฝนกับน้ำรับประทาน ใช้เปลือกต้มน้ำให้เด็กรับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชา ทุก 4 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ทุก 4 ชั่วโมง 3. ยาแก้บิด (ปวดเบ่งและมีมูกและอาจมีเลือดด้วย) ใช้เปลือกผลแห้งประมาณ ½ ผล (4 กรัม) ย่างไฟให้เกรียม ฝนกับน้ำปูนใสประมาณครึ่งแก้ว หรือบดเป็นผง ละลายน้ำสุก รับประทานทุก 2 ชั่วโมง 4. เป็นยารักษาแผลน้ำกัดเท้า และแผลพุพอง แผลเน่าเปื่อย เปลือกผลสด หรือแห้ง ฝนกับน้ำปูนใสให้ข้น ๆ พอควร ทาแผลน้ำกัดเท้า วันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย ทาแผลพุพอง แผลเปื่อยเน่า ข้อควรระวัง ก่อนที่จะใช้ยาทาที่บริเวณน้ำกัดเท้า ควรที่จะ 1. ล้างเท้าฟอกสบู่ให้สะอาด 2. เช็ดให้แห้ง 3. ถ้ามีแอลกอฮอล์เช็ดแผล ควรเช็ดก่อนจึงทายา คุณค่าด้านอาหาร มังคุดประกอบด้วย แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิดที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย สารเคมี Chrysanthemin, Xanthone, Garcinone A, Garcinone B, Gartanin, Mangostin, Kolanone |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||