สมเด็จพระบรมราชินีนาถกับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช    กล้วยไม้ป่าของไทย    บุปผาราชินี     HOME

หน้า 1    2

................................................................................................- 2 -............................................................................................
 

           ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สนับสนุนให้มีการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้และพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ตลอดมาจนเป็นที่ประจักษ์เลื่องลือกันโดยทั่วไปไกลถึงต่างประเทศ บริษัท Black and Flora Ltd. ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ผสมกล้วยไม้สายพันธุ์ Cattleya Bow Bells และ Cattleya O'brieniana var. alba  ได้ลูกผสมที่มีความสวยงามมากเป็นพิเศษและจดทะเบียนไว้ภายใต้ชื่อพันธุ์ว่า Exquisite เมื่อปี ๒๕๐๑ เมื่อนำเข้าประกวดก็ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม A.M./RHS. จาก  The Royal Horticulture Society แห่งประเทศอังกฤษ จึงมีการขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธย ใช้เรียกชื่อกล้วยไม้พันธุ์ดังกล่าวว่า "แคทลียาควีนสิริกิติ์"  ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีการปรับปรุงและคัดพันธุ์ที่ทนร้อนมาปลูกในประเทศไทย เรียกชื่อสายพันธุ์ว่า  Diamond Crown  และได้รับรางวัลยอดเยี่ยม A.M./RSPC. จากสมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย
          แคทลียาควีนสิริกิติ์ เป็นกล้วยไม้ที่มีดอกใหญ่ สีขาวนวล กลีบดอกและกลีบปากแผ่กว้าง ขอบกลีบย่น เป็นลอนคลื่น กลีบปากส่วนกลางมีหยักเว้าและมีแต้มสีเหลืองทองด้านในเด่นชัด ดอกบานเต็มที่กว้าง ๑๒-๑๔ เซนติเมตร

     

แคทลียา "ควีนสิริกิติ์" เอื้องแซะ รองเท้านารี

          เมื่อครั้งเสด็จฯ ไปเป็นองค์ประธานงานกล้วยไม้เอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ ๔ ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่  ในระหว่างทอดพระเนตรนิทรรศการและการประกวดกล้วยไม้ ซึ่งมีกล้วยไม้ไทยสวยงามต่างๆ นำมาจัดแสดงเป็นอันมาก ได้มีพระราชดำรัสกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ศาสตราจารย์ ดร. อานนท์ เที่ยงตรง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ระพี สาคริก และ พลเอกแป้ง มลากุล ณ อยุธยา เกี่ยวกับกล้วยไม้ป่าของเมืองไทยว่า
          "...กล้วยไม้ไทยมีความงามมากและมีกลิ่นหอมมาก ซึ่งนับวันจะหาดูได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ไปทุกขณะ ขอให้ช่วยกันหาทางรวบรวมและอนุรักษ์ไว้ พร้อมกับการขยายพันธุ์ให้มีปริมาณมากพอที่จะคืนสู่ป่าธรรมชาติได้.."
          นอกจากนี้ ในหลายโอกาสยังได้มีพระราชดำรัสให้ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันช่วยดูและปกปักษ์รักษากล้วยไม้ไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้กล้วยไม้ของไทยที่สวยงามและหายาก ได้คงอยู่เป็นมรดกทางธรรมชาติอันล้ำค่าของประเทศสืบไป
          หลายหน่วยงานจึงได้ร่วมกันสองพระราชดำริ บังเกิดโครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ไทยหลายโครงการ อาทิ
          1. โครงการคืนชีวิตกล้วยไม้ไทยสู่ไพรพฤกษ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และกองทัพภาคที่ ๓
          2. โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  กรมวิชาการเกษตร
          3. โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารี อินทนนท์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
          4. โครงการขยายพันธุ์กล้วยไม้ไทยหายากเพื่อการอนุรักษ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ   สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่
        5. โครงการขยายพันธุ์กล้วยไม้สกุลสำเภางาม  สถานีสาธิตและถ่ายทอดการเกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อ ตามพระราชดำริ บ้านปากแซม อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
          สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดในความงามของธรรมชาติ การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธารรวมถึงชนิดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ต่างๆ เพื่อให้วัฎจักรแห่งธรรมชาติได้เป็นไปอย่างสมดุล แม้ว่าพระราชกรณียกิจต่างๆ จะมีมากจนแทบจะไม่มีเวลาว่างเหลือให้กับการพักผ่อนพระวรกาย ก็ยังทรงหาเวลาที่จะปลีกพระองค์ เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรป่าเขาลำเนาไพรพฤกษ์ ชื่นชมพรรณไม้ป่าของไทย และมีพระราชดำรัสในหลายโอกาส กระตุ้นจิตสำนึกให้ทุกคนได้ร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้น รวมถึงการให้ความรู้แก่เด็กและยุวชนให้ตระหนักในความสำคัญ รู้จักคุณค่า เกิดความรักและหวงแหนในพืชพันธุ์ต่างๆ อันเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญต่อไปในภายหน้าอีกด้วย

     

พญาฉัททันต์ เอื้องเขากวาง รองเท้านารีอินทนนท์
 เอื้องนางเทียน  เอื้องตะขาบ  รองเท้านารีขาวสตูล

ในพระราชวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความก้าวหน้าในการดำเนินงานของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ ในหลายวาระ มีพระราชดำริสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จฯ เป็นแหล่งรวบรวมพรรณกล้วยไม้ป่าของไทย เพื่อการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศในด้านต่างๆ  ซึ่งปัจจุบันได้รวบรวมกล้วยไม้ป่าของไทยและตรวจสอบรายชื่อถูกต้องแล้วประมาณได้ถึง ๔๐๐ ชนิด พร้อมข้อมูลด้านนิเวศวิทยาอย่างสมบูรณ์ และเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๔ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงปล่อยเอื้องแซะ ( Dendrobium scabrilingue  Lindl.) คืนสู่ไพรพฤกษ์บนคาคบไม้ป่าในพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ฯ ซึ่งกล้วยไม้พระราชทานทั้งสองกอนี้ ยังคงเจริญเติบโตเป็นอย่างดี
          เอื้องแซะเป็นกล้วยไม้ไทยสกุลหวาย พบมากเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ดอกที่มีกลิ่นหอมหวานชื่นใจ บานนานประมาณเกือบ ๑ เดือน  และยังมีศักยภาพสามารถพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจ หากสามารถสกัดทำน้ำหอมจากดอกเอื้องแซะได้ ในการนี้ยังได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้แก่คณะอาจารย์ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ดำเนินการทดลองสกัดสารหอมระเหยจากเอื้องแซะเพื่อพัฒนาเพิ่มคุณค่าให้เป็นพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนอีกด้วย  ซึ่งขณะนี้ผลงานกำลังมีความคืบหน้าเป็นไปด้วยดี
          สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่เปรียบมิได้ต่อทรัพยากรป่าไม้  สัตว์ป่าและพรรณพืช อันเป็นสมบัติทางธรรมชาติที่ล้ำค่าของประเทศไทย  ทรงมีพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ที่จะให้คนไทยทุกคนได้รับรู้และตระหนักถึงความสำคัญ คุณค่า ความงาม ของทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้  และได้มีส่วนร่วมกันในการอนุรักษ์พันธุ์พืชของไทยทุกชนิด โดยเฉพาะกล้วยไม้ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ของไทย ที่มีความหลากหลายและความงามอย่างโดดเด่น เพื่อให้คงอยู่สำหรับอนุชนรุ่นหลังที่จะได้เห็น ชื่นชมและได้รู้จักกันสืบต่อไป  และให้เป็นสมบัติสืบทอดคงอยู่คู่แผ่นดินนี้อีกตราบนานเท่านาน

หน้า 1    2

............................................................................................................................................................
   ที่มาของข้อมูล : วารสารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๓ กรกฏาคม-กันยาย ๒๕๔๗ เขียนโดย ดร.วีระชัย ณ นคร