| 
				         
				
				
				การที่ปะการังที่มีลักษณะรูปร่างและโครงสร้างต่างๆ 
				มาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก 
				ทำให้สิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดเข้ามาในบริเวณนี้ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน 
				ผู้ล่าเข้ามาคอยหาเหยื่อ เหยื่อเข้ามาใช้เป็นที่พำนักและที่หลบภัย 
				ปลาส่วนใหญ่ที่อาศัยในแนวปะการังจะเป็นปลากินเนื้อ 
				ซึ่งคอยจับเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่าจากด้านบน 
				และเนื่องจากปลาหลายชนิดรู้ดีว่า ด้านบนจะมีผู้ล่าอาศัยอยู่ 
				ทำให้ปลาเหล่านี้จะอาศัยใกล้ๆ กับปะการัง 
				เพื่อคอยหลบหนีจากผู้ล่าเพราะสามารถว่ายน้ำเข้าสู่ซอกเล็กซอกน้อยของปะการังได้ 
				ปะการังที่มีลักษณะเป็นกิ่งก้านจะเป็นแหล่งหลบซ่อนที่ดีสำหรับปลาตัวเล็กๆ 
				เมื่อผู้ล่าหรือศัตรูที่มีขนาดใหญ่กว่าผ่านมา 
				โครงสร้างสามมิติของปะการังนี้จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง 
				เมื่อแนวปะการังถูกทำลายจึงมีผลต่อความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบริเวณนั้น 
				นอกจากนี้ 
				สัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในแนวปะการัง 
				โดยเฉพาะหอยเม่น 
				เพราะหอยเม่นจะกินพวกสาหร่ายที่เกิดขึ้นในแนวปะการังทำให้เกิดเป็นพื้นที่ที่ปะการังสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ 
					
						
							|  | 
				          
				หน้าที่สำคัญของปะการังคือ 
				เป็นแนวป้องกันชายฝั่งจากการกัดเกาะของคลื่นและกระแสน้ำ 
				เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ ทำให้เกิดกิจกรรมต่างๆ 
				ที่มีผลกระทบต่อปะการังในทางตรงและทางอ้อม ปัจจุบัน 
				ประมาณหนึ่งในสามของปะการังทั่วโลกจึงถูกทำลายไปเนื่องจากการใช้ประโยชน์ที่ผิดวิธีหรือจากการใช้ประโยชน์มากเกินไป 
				ปะการังที่ยังคงอยู่ส่วนใหญ่ถึงถูกจัดว่าเป็นปะการังที่มีชีวิตแต่มีความสมบูรณ์ที่ลดน้อยลงจากที่เคยเป็นอยู่บางแห่งก็ถูกทำลายจนไม่อาจฟื้นฟูได้ 
				การประมงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อปะการัง 
				ไม่ว่าเป็นการทำประมงมากเกินกำลังผลิตหรือการทำประมงผิดวิธี 
				การพัฒนาอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม 
				ทั้งนี้รวมถึงการก่อสร้างอาคารสถานที่ การสร้างท่าเรือ และอื่นๆ 
				บริเวณชายฝั่งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาดังกล่าวด้วย |  
							| 
							 |  
						
							
								| 
								
								          
								ภัยธรรมชาติก็เป็นสาเหตุหลักสาเหตุหนึ่งของการทำลายปะการัง 
								โดยเฉพาะพายุที่รุนแรงเป็นต้นเหตุของคลื่นขนาดใหญ่ 
								ดังเช่นเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปี 2547 ที่ผ่าน 
								จะทำให้ปะการังแตกหักและถูกทำลายในที่สุด 
								การเกิดปรากฎการณ์เอลนีโนหรือปรากฎการณ์โลกร้อนขึ้น 
								ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ปะการังตาย 
								เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นจะทำให้สาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ในปะการังแยกตัวจากปะการัง 
								ซึ่งเรียกว่า ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว นอกจากนั้น 
								ยังมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่กินปะการังเป็นอาหาร  เช่น 
								ดาวมงกุฎหนาม และหอยฝาเดียวหลายชนิดปัจจุบันแนวปะการังมีการฟื้นตัว 
								เนื่องจากมนุษย์เริ่มรู้จักการอนุรักษ์และตระหนักถึงความสำคัญของปะการังที่มีต่อระบบนิเวศและต่อสิ่งแวดล้อม 
								มีการวางแนวทางการฟื้นฟูปะการัง 
								รวมถึงการใช้ประโยชน์ปะการังอย่างยั่งยืน 
								ซึ่งรวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมใน
 | 
				  |  |  
								| 
								 |  |