ลักษณะ :
ผักปลังมี 2 พันธุ์
คือพันธุ์ที่มีลำต้นสีเขียว เรียกผักปลังขาว
และพันธุ์ที่มีลำต้ นสีม่วงแดง
เรียกผักปลังแดง
เป็นผักที่ชาวเหนือและชาวอีสานนิยมรับประทาน
ผักปลังเป็นไม้เลื้อย ลำต้นกลม อวบน้ำ
ไม่มีขน แตกกิ่งก้านสาขาได้มาก
ใบ ใบเป็นใบเดี่ยวออกแบบสลับ แผ่นใบอวบน้ำ
ใบรูปร่างเป็นรูปไข่ รูปหัวใจหรื
อรูปไข่ปนขอบขนาน ใบกว้าง 2-6 ซ.ม. ยาว
2.5-7.5 ซ.ม. ใบลักษณ ะมัน ไม่มีขน
หากขยี้ดูจะเป็นเมือก ใบประดับ 2 ใบเล็กๆ
ติดอยู่โคนของ กลีบดอก ดอก ดอกเป็นช่อ
ดอกของผักปลังขาวมีสีขาว
ดอกของผักปลังแดงมีสีขาวอมชมพู กลี
บดอกมีฐานติดกัน และปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ผล
มีรูปร่างกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-6 ม.ม.
ลูกแก่จะมีสีม่วงอมดำ เนื้ อนิ่ม
ภายในผลมีน้ำสีม่วงดำหรือสีขาว
ประโยชน์ :
ก้าน
แก้พิษฝี แก้ขัดเบา แก้พรรดึก แก้ท้องผูก
ลดไข้ ใบ ใบผักปลังสด
ตำให้ละเอียดและคั้นน้ำเมือก
เอาน้ำเมือกทาช่องคลอด ช่วยให้
หญิงมีครรภ์คลอดง่ายขึ้น
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการช่วยขับปัสสาวะ แก้อาก
ารอักเสบ แก้กลาก บรรเทาอาการผื่นคัน ดอก
แก้เกลื้อน ราก แก้มือเท้าด่าง แก้รังแค
แก้พิษพรรดึก นอกจากนี้
ยังนิยมนำผักปลังมาปรุงประกอบเป็นอาหาร
มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะยอดอ่อน ใบอ่อน
ดอกอ่อน มีรสจืดเย็น
ช่วยระบายท้องส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย
รวมทั้งมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น
ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก วิตามินเอ บี1 บี2 ซี
และไนอาซีน
|