ต้นไม้ในตำนานคริสตศาสนาและบทกวี


 next >>

 




อีกหนึ่งตำนานเล่าว่า ชาวกรีกโบราณถือว่าในการเพาะปลูกและการพึ่งพิงประโยชน์จากต้นมะกอกนั้น เทพที่ชาวกรีกจะบวงสรวงคือเทพอาริสทิอูส บุตรชายของอพอลโลและเทพธิดาไซรีน และผู้ที่จะทำนุบำรุงสวนมะกอกนั้นจะต้องเป็นหญิงพรหมจรรย์หรือชายบริสุทธิ์เท่านั้น
          กรีกโบราณ สมัยเมื่อ 600 ปีก่อนคริสตกาลนั้น ยังมีพ่อค้าคนหนึ่งคือ เธลแห่งไมลีตัส ผู้เล็งเห็นว่ากิจการผลิตน้ำมันกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ คงเป็นบุญเก่าเป็นแน่ที่ดลบันดาลให้พ่อค้าเกิดความคิดนี้ขึ้น เขาจึงไปขอเช่าโรงงานผลิตน้ำมันทั่วอาณาจักรจนลายเป็นพ่อค้าผูกขาด สามารถสร้างผลกำไรมากมายอย่างไม่คาดฝัน และเขาผู้นี้เอง ที่เป็นพ่อค้าคนแรกที่ค้าขายในกิจการน้ำมัน

สำหรับชาวโรมันโบราณนั้น มีความเชื่อว่า โรมูลัสและรีมัส ( บุตรแห่งพระผู้เป็นเจ้า เป็นพี่น้องฝาแฝดผู้สร้างกรุงโรม ) ได้มองเห็นแสงตะวันครั้งแรกจากใต้กิ่งต้นมะกอก ตามตำนานโรมันนั้นกล่าวว่า มิเนอร์วา เทพธิดาแห่งสันติภาพและปัญญาเป็นผู้ให้พรสวรรค์ด้านการเพาะปลูกต้นมะกอก และการทอผ้าขนสัตว์แก่เหล่ามนุษยชาติ ส่วนเฮอร์คิวริสนั้นว่ากันว่าเป็นผู้ที่ช่วยเร่งให้เกิดการแพร่พันธุ์ของต้นมะกอกเรื่อยเรียงไปตลอดชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน เพราะทุกครั้งที่ชายผู้ทรงพลังนี้ปักไม้กระบองโอลีฟ (ที่ทำจากไม้มะกอก) ลงบนพื้นดิน ก็จะปรากฎรากแตกแขนงแทงยอดชูชันขึ้นเป็นต้นมะกอกทันที
          ในพระคัมภีร์ไบเบิลมีข้อความถึง 140 แห่งที่กล่าวถึงน้ำมันมะกอก และยังกล่าวถึงต้นมะกอกอีกเกือบ 100 แห่ง ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลอย่างดีอันสะท้อนให้เห็นถึงความเกี่ยวพันทางศาสนาของมะกอก และการใช้น้ำมันมะกอกในชีวิตประจำวันของคนโบราณ 
          ในคัมภีร์เยเนซิส นกพิราบซึ่งโนอาห์ปล่อยให้เป็นอิสระนั้น ได้บินกลับมายังเรืออาคในตอนค่ำ พร้อมกับคาบเอากิ่งมะกอกลูกสีเขียวเล็กๆ กลับมาด้วย อันเป็นเครื่องหมายที่บอกว่า บัดนี้ภัยจากน้ำท่วมได้สงบลงแล้ว จะเป็นเครื่องหมายอย่างหนึ่งที่แสดงให้รู้ว่าสันติภาพระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับมนุษย์นั้นได้รับการฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วเช่นกัน
          พระคัมภีร์ The book of judges ความตอนหนึ่งว่า " เมื่อเหล่าบรรดาต้นไม้ได้รับคำแถลงให้มีการแต่งตั้งราชาแห่งต้นไม้ขึ้น ต้นไม้เหล่านั้นจึงกล่าวแก่ต้นมะกอกว่า " จงปกครองพวกเราเถิด " แต่ต้นมะกอกกลับตอบไปว่า " อย่ากระนั้นเลย ขอให้ฉันได้เก็บเอาความอุดมสมบูรณ์ที่ฉันมีอยู่นี้ เป็นบรรณาการแด่พระผู้เป็นเจ้าและแก่มวลมนุษย์ โดยสถิตย์อยู่บนต้นไม้นี้เถิด "
          ในพระคัมภีร์เอ็กโซดัสระบุว่า  พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สอนวิธีเตรียมน้ำมันเพื่อใช้ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์แก่โมเสส พระองค์กล่าวว่า : " คัดเครื่องปรุงที่ดีที่สุดจาก ยางไม้หอม จำนวน 500 เซเคิล และเปลือกอบเชยที่มีกลิ่นหอมหวานเพียงครึ่งเดียว คือ 250 เซเคิล หญ้าหอม 250 เซเคิล และชุมเห็ดอีก 500 เซเคิล " ทั้งนี้หน่วยเซเคิล รวมทั้งหน่วยน้ำหนักที่เรียกว่า ฮิน ( hin ) ที่เป็นหน่วยที่ใช้กับน้ำมันมะกอกนั้นเป็นระบบที่ใช้กันในโบสถ์ ( 500 เซเคิลเทียบได้ประมาณ 7.5 กก. และ 1 ฮิน คือประมาณ 6 ลิตร ) ในพระคัมภีร์เล่มนี้ยังมีอีกตอนหนึ่งที่กล่าวว่า  " จงส่งลูกๆ ของเจ้าไปนำเอาน้ำมันที่มีความบริสุทธิ์ที่สุดจากต้นมะกอกเถิด เพื่อตะเกียงในบ้านเรือนของพวกเจ้าจะได้สว่างไสวอยู่ตลอดเวลา "
          ในพระคัมภีร์ลีวิติกัส มีบันทึกเกี่ยวกับการถวายเครื่องบวงสรวงว่าดังนี้  " ผู้ใดก็ตามที่ถวายเครื่องบวงสรวงแก่พระเจ้า เช่น การถวายธัญพืชนั้น ให้บดเป็นผงแป้ง เติมน้ำมันลงไป และเติมกำยาน..."  ถ้าเรื่องบวงสรวงเป็นธัญพืชอบในเตาอบ ขนมอบนั้นต้องไม่ใส่ผงฟู ใช้แป้งที่ละเอียดเป็นผงผสมกับน้ำมัน หรืออาจจะเป็นขนมปังกรอบทาหน้าด้วยน้ำมัน นอกจากนี้ ถ้าเครื่องบวงสรวงของท่านเป็นธัญพืชชนิดทอดให้ใช้ผงแป้งที่ไม่ใส่ผงฟู ผสมกับน้ำมัน โดยบิออกเป็นชิ้นและเทน้ำมันลงไป " " และถ้าเครื่องบวงสรวงเป็นธัญพืชที่ปรุงด้วยกระทะ ส่วนผสมก็ต้องทำจากผงแป้งและน้ำมัน" 
          ในพระคัมภีร์ดิวเตอร์โรโนมี ระบุว่าที่ปาเลสไตน์ ดินแดนแห่งอาเซอร์ เป็นดินแดนแห่งต้นมะกอก และน้ำมันมะกอก "อาเซอร์ เจ้าได้รับความกรุณาจากพระเจ้าเหนือกว่าบุตรชายคนอื่นๆ เจ้าจะเป็นที่รักใคร่ในหมู่พี่น้อง และเจ้าจะได้จุ่มเท้าในน้ำมันท่ามกลางพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ "