ลักษณะ :
ฝ้ายเป็นไม้พุ่ม ลำต้น
มีสีน้ำตาลแดงอาจเป็นเหลี่ยม ใบ เดี่ยว
รูปไข่กว้าง ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก 3-5
หยัก ฐานใบเป็นรูปหัวใจ ก้านใบค่อนข้างยาว
ดอก เดี่ยว มีใบประดับ 5 กลีบติดกัน
กลีบดอกสีเหลือง ผล กลมปลายยาวแหลม เมล็ด
รูปไข่ มีขนสีขาวยาว 3.7-5 เซนติเมตร รอบๆ
เมล็ด
ประโยชน์ :
ฝ้ายเป็นพืชเส้นใยที่ปลูกและใช้กันมากที่สุดในโลก
เมล็ดฝ้ายใช้สกัดน้ำมันเพื่อเป็นอาหาร
และใช้ในอุตสาหกรรม
เมล็ดหลังจากสกัดน้ำมัน
(cottonseed meal)
จะมีเปอร์เซนต์โปรตีนสูง
ฝ้ายที่ปลูกเป็นการค้าในปัจจุบันได้มาจากการปรับปรุงพันธุ์
โดยคัดเลือกและผสมพันธุ์ระหว่างฝ้ายต่างๆ
4 ชนิดด้วยกัน คือ
-
Upland cotton (G.hirsltum
)
-
American-Egytian cotton (G.
baradense )
-
Asiatic cottons
(G. aboreum )
และ
(G. herbaceum )
ปุยฝ้ายมากว่าครึ่งหนึ่งของที่ผลิตได้ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม
และเครื่องใช้อื่นๆ
ที่เหลือจะใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น
ทำถุง ทำสายพานต่างๆ เชือก และยางรถ
เส้นใยที่สั้นใช้ทำพรม และเครื่องใช้อื่นๆ
เส้นใยที่ติดแน่นอยู่กับเมล็ด (
fuzz or linters)
ใช้ทำเส้นใยเทียม เช่น เรยอน
และผลผลิตอื่นๆ ที่ทำจากเซลลูโลส
เมล็ดฝ้ายใช้หีบน้ำมัน
ปุยฝ้ายทำสำลีและอุปกรณ์ใช้ในทางการแพทย์
และใช้เตรียมเป็นยาแผนปัจจุบันหลายชนิด
น้ำมันเมล็ดฝ้ายใช้เป็นน้ำมันหุงต้ม แต่ต้องเอาสารบางชนิดออกก่อน
ประโยชน์ทางสมุนไพรก็มี เช่น
เปลือกรากฝ้ายเป็นยาบีบมดลูก |