ย้อนกลับ

หน้า  1  2   

 







 
 

งา

ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Sesamum indicum   L.
วงศ์ :  Pedaliaceae
ชื่อสามัญ
Sesame
ชื่ออื่น : งาขาว, งาดำ (ภาคกลาง)  นีโซ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ไอยู่มั้ว (จีน)
ลักษณะ : เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 30-100 ซม. ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีร่องตามยาวของลำต้น มีขนปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามหรือสลับ ลักษณะใบเป็นรูปไข่ หรือรูปใบหอก กว้างประมาณ 2-5 ซม. ยาวประมาณ 6-10 ซม. ดอกเป็นดอกเดี่ยว เป็นหลอด ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาวหรือสีชมพู ออกโดยรอบลำต้นตอนบน ผลเป็นผลแห้ง มี 4 พู เมล็ดแบน ขนาดเล็ก มีจำนวนมาก รูปไข่ สีดำ เรียก"งาดำ" สีขาวหรือสีนวล เรียก" งาหม่น"
ประโยชน์ ตำรายาไทย ใช้น้ำมันระเหยยากซึ่งบีบจากเมล็ด หุงเป็นน้ำมันใส่บาดแผลและทาถูนวดแก้เคล็ดขัดยอก พบว่ามี beta-sitosterol
 มีฤทธิ์ลดการอักเสบ  มักใช้ผสมยาทา สำหรับกระดูกหัก ทานวดเคล็ด ยอก ปวด บวม หรือใช้บำรุงรากผม
             เมล็ดงามีน้ำมันสูงถึง 35-57% น้ำมันที่สกัดได้เป็นน้ำมันที่ดีเยี่ยมคือ มีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง กรดนี้ช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอล ไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็ง ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับ หลอดเลือดบางชนิด "น้ำมันงา" ( Seasame oil หรือ Teel oil หรือ Benne oil หรือ gingelly oil ) คือ การคิดค้นวิธีแปรรูป งาขาวได้รับความนิยมนำมาผลิตเป็นน้ำมัน เพราะมีกลิ่นหอม รสชาติดี เหมาะกับการปรุงอาหาร ส่วนงาดำนั้นใช้ทำยามีรสออกขมนิด ๆ แต่พบว่างาดำมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า จึงใช้งาดำเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ส่วนน้ำมันงาที่ได้จากการบีบงาโดยใช้ความร้อน ( cold expression) เรียกน้ำมันงาเชย สตรีไทยโบราณใช้น้ำมันงาเชยประทินผิวให้ผิวสวย เนียน