|
|
หางหมาจอก
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Uraria crinita
(L.) Desv. ex DC.
วงศ์ : Papilionoideae
ชื่อสามัญ :
-
ชื่ออื่น :
หางหมาจอก
(สระบุรี) หญ้าตะขาบ (ราชบุรี) หญ้าหางแมว (สตูล) หางกระรอก (กรุงเทพฯ)
เสลดพังพอนกะเหรี่ยง (กาญจนบุรี) หญ้าหางเสือ (เชียงใหม่) ขี้หนอน (กาฬสินธุ์)
เหนียวหมา ( สุราษฎร์ธานี) กันตุยซาโม ( เขมร จันทบุรี)
ลักษณะ : ไม้พุ่ม ลำต้นตั้งตรงสูง 30-120
เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 5-10 มิลลิเมตร ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่
(odd-pinnate) ใบย่อย 3-11 ใบ ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ (ovate-oblong) กว้าง
4.0-7.6 เซนติเมตร ยาว 8-13 เซนติเมตร หน้าใบไม่มีขน หลังใบมีขนสั้นมาก
กระจายเล็กน้อยถึงปานกลาง ก้านใบสีเขียวแกมแดง เนื้อใบหยาบ ขอบใบเรียบ
ช่อดอกกระจะ ออกดอกตามยอดและซอกใบ ดอกย่อยเรียงอัดตัวกันแน่น
กลีบดอกสีม่วงอมชมพู ก้านดอกย่อยและกลีบเลี้ยงมีปุยขนยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร
ปกคลุมหนาแน่น ผลเป็นฝักแบนและคอดเป็นข้อๆพับงอไปมา
ประโยชน์ : อาหารสัตว์โค-กระบือ
ยาพื้นบ้านอีสานใช้ราก ผสมรากแกลบหนู รากกาสามปีกใหญ่ รากกาสามปีกเล็ก
และรากโมกมัน ต้มน้ำดื่ม แก้อาการทางประสาท ฝนน้ำปูนใสทา รักษาฝี
ยาพื้นบ้านล้านนาใช้ทั้งต้น ผสมหัวยาข้าวเย็น ต้มน้ำดื่มแก้ปวดเมื่อย (จิรายุพิน
และคณะ, 2542) รากฝนกับสุรา หรือน้ำมะนาว รับประทานและทาแก้พิษงูกัด (วุฒิ,
2540) |
|