ปอกระเจาฝักกลม
Corchorus capsularis L., TILIACEAE


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกปีเดียว ลำต้นยาวเรียว สูง 2.5-4 ม. สีเขียว เขียวอ่อน หรือแดงเข้ม มีทั้งแตกกิ่งและไม่แตกกิ่งตามลักษณะของพันธุ์ ใบเดี่ยวเรียงสลับ กว้าง 0.8-5.5 ซม. ยาว 4-14 ซม. ปลายแหลม โคนมน ขอบจักฟันเลื่อย จักสุดท้ายทั้ง 2 ซึ่งอยู่ที่โคนใบเป็นเส้นยาวเรียว ใบอ่อนมีขนตามเส้นใบ ก้านใบมีขน ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อกระจุกสั้น ออกตรงข้ามกับใบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลือง รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี 2-5 ช่อง ผลกลมป้อม เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7-1.4 ซม. เมื่อแก่แตกเป็น 5 ซีก ภายในไม่มีผนังกั้นตามขวาง เปลือกย่นเป็นตุ่มๆ


ถิ่นกำเนิด : -


การกระจายพันธุ์ : จีน ญี่ปุ่น อินเดีย พม่า เวียดนาม มลายูภาคใต้ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์


การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย : เชียงใหม่, เชียงราย, กาญจนบุรี, อ่างทอง, กรุงเทพมหานคร, ปราจีนบุรี, ชลบุรี, พังงา


สภาพนิเวศน์ : ปลูกตามริมฝั่งแม่น้ำในภาคกลางและภาคตะวันออก ขึ้นในบริเวณที่มีความชื้นสูง ทนทานน้ำท่วมได้ดี


เวลาออกดอก : ออกดอกและติดผลระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม


เวลาออกผล : -


การขยายพันธุ์ : -


ความเกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ : ในประเทศไทยเริ่มปลูกตั้งแต่ พ.ศ. 2483 โดยกรมเกษตรและการประมง (ชื่อในขณะนั้น) ได้รณรงค์ส่งเสริมพื้นที่การปลูกที่สุโขทัยบางส่วน และตั้งแต่จังหวัดชัยนาทลงมาจนถึงพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี เพื่อเพิ่มพูนรายได้และใช้เป็นวัตถุดิบในการทอกระสอบ โดยขั้นแรกได้ใช้พันธุ์พื้นเมือง คือ พันธุ์อยุธยา และพันธุ์พม่า เพื่อผลิตเส้นใยป้อนโรงงานทอกระสอบซึ่งรัฐบาลมีนโยบายให้จัดตั้งขึ้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2484 เป็นต้นมาได้มีหน่วยงานราชการและเอกชนนำเมล็ดพันธุ์ปอกระเจาจากต่างประเทศเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนมากขึ้น ได้ดำเนินการทดลองและขยายพื้นที่การผลิตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ต่อมาใน พ.ศ. 2511 รัฐบาลได้กำหนดให้ปอกระเจาเป็นพืชเศรษฐกิจ ปัจจุบันมีการปลูกปอกระเจาตามริมฝั่งน้ำของบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนหลายจังหวัด แต่พื้นที่ปลูกลดน้อยลง เนื่องจากต้นทุนในการผลิตสูงในขณะที่ราคาและผลผลิตขึ้นลงไม่แน่นอนในแต่ละปี เกษตรกรจึงหันไปสนใจพืชอื่นที่ให้รายได้ดีกว่า


อ้างอิง : 1) ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช อักษร ก. กรุงเทพมหานคร: เพื่อนพิมพ์.
2) Smitinand, T. and Larsen, K., eds. 1993. Flora of Thailand (Vol.6: 1). Bangkok: The Rumthai Press.