กระดอม


ชื่อพื้นเมือง : ขี้กาดง ขี้กาน้อย (สระบุรี), ขี้กาลาย (นครราชสีมา), ขี้กาเหลี่ยม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ผักแคบป่า (น่าน), มะนอยจา (ภาคเหนือ), มะนอยหก มะนอยหกฟ้า (แม่ฮ่องสอน), กระดอม


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gymnopetalum cochinchinense (Lour.) Kurz


ชื่อวงศ์ : CUCURBITACEAE


ชื่อสามัญ : -


ลักษณะ : ไม้เถา ลำต้นเป็นร่อง และมีมือเกาะ (tendril) ใบเดี่ยว เรียงสลับ มีรูปร่างต่างๆ กัน มีตั้งแต่รูปไตจนถึงรูปสามเหลี่ยม ห้าเหลี่ยม หรือเป็นแฉก โคนเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ ดอกแยกเพศ อยู่บนต้นเดียวกัน ใบประดับยาว 1.5-2 ซม. ขอบจักเป็นแฉกลึกแหลม ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็นแฉกรูปใบหอก 5 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ สีขาว โคนติดกันเล็กน้อย เกสรเพศผู้ 3 อัน ดอกเพศเมียออกเดี่ยวๆ กลีบเลี้ยง และกลีบดอกมีลักษณะเหมือนดอกเพศผู้ รังไข่มีช่อเดียว ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 3 แฉก ผลสีแดงอมส้ม รูปไข่แกมรูปขอบขนาน ผิวสาก มีสัน 10 สัน เนื้อสีเขียว เมล็ดรูปรี


ประโยชน์ : กระดอมเป็นสมุนไพร ในอินเดียใช้รากแห้งบดผสมกับน้ำร้อนทาถูนวดกล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดเมื่อย น้ำต้มจากในกินเป็นยาถอนพิษของผลสุกที่กินเข้าไป เมล็ดต้มน้ำกินเป็นยาลดไข้ ขับน้ำลาย บำรุงธาตุ และช่วยย่อย.


โทษ : -


ข้อมูลเพิ่มเติม