กำลังช้างสาร
Beaumontia murtonii
Craib, APOCYNACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: ไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่
ตามลำต้นและกิ่งก้านมีช่องอากาศเป็นจุดสีน้ำตาลกระจายอยู่ทั่วไป
มีน้ำยางขาว
เปลือกนอกสีเทา
ปลายกิ่งมีรอยแผลใบและมีขนสีน้ำตาลแดง
ขนจะค่อยๆ
ร่วงไปเมื่อกิ่งแก่ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก
รูปขอบขนานหรือรูปใบหอกกลับแกมรูปขอบขนาน
กว้าง 9-12 ซม. ยาว 17-20 ซม.
ใบตอนบนที่ใกล้จะถึงช่อดอกขนาดเล็กกว่า
กว้างประมาณ 4 ซม.
ยาวประมาณ 13 ซม.
ปลายเป็นติ่งแหลมเล็กน้อย
โคนสอบ ขอบเรียบ
แผ่นใบหนา
เส้นแขนงใบข้างละ 13-16
เส้น
ปลายเส้นจรดกับเส้นถัดไปก่อนถึงขอบใบและเห็นได้ชัด
ก้านใบยาวประมาณ 1.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง
ออกตามปลายกิ่ง
ยาวประมาณ 13 ซม.
ดอกใหญ่สีขาว
กลิ่นหอมอ่อนๆ
รูปกรวยปากผาย
เส้นผ่านศูนย์กลาง 11-12 ซม.
ก้านดอกยาวประมาณ 2 ซม.
กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกกัน
กลีบชั้นนอก 2 กลีบ
ยาวและเป็นคลื่น
กว้างประมาณ 1.7 ซม.
ยาวประมาณ 3.3 ซม.
สีเขียวอ่อนขลิบเขียวเข้มที่ขอบ
ส่วนอีก 3
กลีบที่อยู่ชั้นในสั้นกว่า
สีเหลืองอมเขียวอ่อน
กลีบดอกโคนติดกันเป็นหลอดแคบๆ
ยาวประมาณ 2 ซม.
แล้วผายออก
ปลายกลีบแยกกัน
กว้างยาวประมาณ 3 ซม.
ปลายแหลม เกสรเพศผู้ 5
อัน
โคนก้านชูอับเรณูติดกับผนังกลีบดอก
ยาวประมาณ 3.5 ซม.
อับเรณูเป็นรูปเงี่ยงลูกศร
ยาวประมาณ 1.3 ซม. และทั้ง 5
อันประกบกันโอบเกสรเพศเมีย
ฝักรูปทรงกระบอก 2
ฝัก โคนติดกัน
แต่ละฝักเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
9 ซม. ยาวประมาณ 28 ซม.
เมื่อแก่จะแตกด้านเดียว
เมล็ดยาวประมาณ 1 ซม.
หัวท้ายรี ตอนบนคอด
บริเวณที่คอดมีขนเป็นพู่สีขาว
ยาวประมาณ 2.5 ซม.
ถิ่นกำเนิด : -
การกระจายพันธุ์ :
กัมพูชา ลาว เวียดนาม
ภูมิภาคมาเลเซีย
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: อุดรธานี,
ประจวบคีรีขันธ์,
กรุงเทพมหานคร,
ปราจีนบุรี, ชลบุรี
สภาพนิเวศน์ :
ป่าเบญจพรรณ
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ : -
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช
อักษร ก. กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.
2) Santisuk, T. and Larsen, K., eds. 1999. Flora of Thailand
(Vol.7: 1). Bangkok. Diamond Printing.