ตะโก
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Diospyros rhodocalyx
Kurz
วงศ์ :
EBENACEAE
ชื่อสามัญ
: Ebony
ชื่ออื่น :
โก (ตะวันออกเฉียงเหนือ) นมงัว
(นครราชสีมา) มะโก (ภาคเหนือ) มะถ่านไฟผี (เชียงใหม่)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ต้น ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 15 เมตร
เปลือกแตกเป็นร่อง มีสะเก็ดหนา สีดำ เนื้อไม้สีขาว ใบ
เดี่ยว รูปไข่กลับ รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนหรือป้อม
กว้าง 2-7 ซม. ยาว 3-12 ซม. ปลายใบทู่หรือโค้งมน
โคนใบสอบแคบหรือมน ดอก ออกเป็นช่อ ดอกแยกเพศต่างต้น
ดอกเพศผู้ เป็นช่อเล็กๆ มีประมาณ 3 ดอก ออกตามซอกใบ
กลีบเลี้ยง 4 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย
มีขนปกคลุม กลีบดอก เชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 4 กลีบ
เกสรเพศผู้ 14-16 อัน ดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยวๆ
ออกตามซอกใบ กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ
มีขนนุ่ม เกสรเพศเมีย รังไข่ป้อม มีขนปกคลุม
ภายในแบ่งเป็น 4 ช่อง ผล แบบผลสด มีเนื้อ หลายเมล็ด
ทรงกลม ขนาด 1.5-2.5 ซม. ผลอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง
กลีบเลี้ยงติดคงทน กางหรือแนบลู่ไปตามผิวผล เมล็ด มี
3-5 เมล็ด รูปไข่แบน สีน้ำตาลเข้ม
มีเนื้อฉ่ำน้ำหุ้มอยู่
ตะโกจะออกดอกและติดผลเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน
การกระจายพันธุ์ พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าละเมาะ
และทุ่งนาทั่วไป ที่ระดับความสูง 40-300 เมตร
ต่างประเทศกระจายจากพม่า จนถึงภูมิภาคอินโดจีน
ประโยชน์
: ผลสุกรับประทานได้
มีรสหวานอมฝาด ปลูกเป็นไม้ประดับ ทำไม้ดัด
ทำด้ามอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ ผลอ่อนทำสีย้อมแห อวน
และผ้า
|