|  
 
  
 
  
 
  
 
  | 
							
							
							
							สะตอ
 
							
							ชื่อวิทยาศาสตร์ 
							:  Parkia 
							speciosa 
							 Hassk.
							วงศ์ : 
							Mimosoideae
 ชื่อสามัญ 
							:  Nitta tree
 ชื่ออื่น :  
							
							กะตอ, สะตอ, ตอดาน, ตอข้าว (ภาคกลาง, ภาคใต้); ปะตา, 
							ปัตเต๊าะ (มลายู-ยะลา, ปัตตานี); ปาไต (มลายู-สตูล)
 
							
							ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : 
							ไม้ยืนต้น ลำต้นเปลาตรง รากมีพูพอน 
							ผิวเปลือกนอกหลุดลอกเป็นสะเก็ดเล็กน้อย 
							สีน้ำตาลปนสีขาว สูงชะลูด ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 2 
							ชั้น ก้านใบชั้นแรกยาว 15-40 ซม. โคนก้านใบมีต่อมยาว 
							4-6 มม. ก้านใบชั้นที่ 2 ยาว 6-10 ซม. ใบย่อยมี 14-18 
							คู่ ขนาดเล็กรูปไข่ กว้าง 1.5-2 มม. ยาว 5-10 มม. 
							ก้านใบย่อยยาว 0.5-1 มม. ปลายใบมน 
							ฐานใบเบี้ยวขึ้นเป็นติ่ง  ช่อดอก 
							เกิดที่ปลายยอดเป็นช่อดอกรวมคล้ายดอกกระถินรวมกันเป็นกระจุก 
							ก้านช่อดอกยาวห้อยลง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด 
							ปลายแยกเป็นแฉกๆ สีขาวครีมหรือขาวอมเหลือง ยาว 9-12 มม. 
							ดอกสมบูรณ์เพศ ผล เป็นฝักแบนกว้าง 3.5 ซม. ยาว 35-50 
							ซม.เมื่อแก่ฝักมีสีเขียว เนื้อในฝักสีขาว 
							เมื่อสุกฝักจะเปลี่ยนเป็นสีเทาดำ และดำในที่สุด 
							เนื้อในฝักจะเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือสีแดง 
							ฝักสะตอโดยทั่วไปจะบิดเป็นเกลียวห่าง เมล็ด รี 
							ค่อนข้างกลม เรียงตามขวางฝัก กว้าง 1-2 ซม. ยาว 2-2.5 
							ซม. มีรสเผ็ดร้อน กลิ่นฉุนเล็กน้อย สะตอพบแพร่กระจายตามป่าดิบชื้น ป่าเชิงเขา 
							หรือป่าโปร่ง ในภาคตะวันออก ภาคใต้และแหลมมลายู 
							ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดและการติดตา
 ประโยชน์ : 
							 ฝักและเมล็ดแก่ 
							นิยมนำมาบริโภคเป็นผักสด ใช้ประกอบอาหาร หรือนำมาดอง 
							ฝักสดใช้ประกอบยาสมุนไพรแก้โรคเบาหวาน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 |   |