เทคนิคการลงสีมี
5 ขั้นตอนดังนี้
-
TEA WASH
:
คือขั้นตอนการลงพื้นที่อ่อนที่สุด
เริ่มจากที่เราเลือกสีใดสีหนึ่ง แล้วนำพู่กันมาจุ่มสี
แล้วเริ่มลงสีจากบริเวณมุมบน เริ่มจากซ้ายไปขวา
ไปมาหลายๆรอบแล้วลองใช้สีอื่นๆ หลายๆ สี
โดยเริ่มสีจากสีเข้มไปสีอ่อน
จากบริเวณบนสุดของภาพแล้วลองใช้พู่กันชุ่มน้ำมากๆ
ลากซ้ำไปมาอีกหลายๆ รอบในแนวดิ่งและแนวราบและทางซ้ายขวา
แล้วลองลงสีเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น รูปใบ หรือรูปกลีบดอกไม้
เป็นต้น
-
RELIEF
:
คือขั้นตอนการลงสีเพื่อเพิ่มบริเวณต่างๆ ในภาพ
ซึ่งจะทำให้ภาพมีน้ำหนักเกิดความลึกและทำให้ภาพมีมิติ
-
CONTRAST :
คือขั้นตอนการลงสีเพื่อเน้นรายละเอียดของภาพทำให้เกิดความแตกต่างกัน
ระหว่างสีสองสีที่อยู่ในบริเวณที่ต่างกันของภาพ เช่น
กลีบดอกที่อยู่ด้านบนต้องมีสีอ่อนกว่ากลีบดอกที่อยู่ด้านล่างเสมอ
-
HARMONIZE :
คือขั้นตอนการลงสีเพื่อให้ภาพเกิดความกลมกลืน เช่น
ถ้าคุณวาดกิ่งไม้ที่มีดอกกุหลาบสีเหลืองอยู่
คุณต้องใส่สีเขียวของใบไม้ผสมเข้าไปกับสีเหลืองของดอกไม้ด้วย
และเช่นกันคุณต้องใส่สีเหลืองของดอกกุหลาบลงไปในสีเขียวของใบไม้ด้วย
-
ขั้นตอนสุดท้าย :
คือการสังเกตรายละเอียดปลีกย่อยอย่างพิถีพิถัน
เราอาจต้องเติมลายเส้นเพื่อเพิ่มรายละเอียดอีกเล็กน้อย เช่น
เน้นลายเส้นขนให้เข้มขึ้น
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงสีทั้ง 5 ขั้นตอนแล้ว
คุณต้องพิจารณาภาพของคุณเองโดยวางภาพที่ยังไม่เสร็จไว้
คุณอาจพักไปเดินเล่นแล้วกลับมาดูงานใหม่อีกครั้ง
สายตาและการมองภาพจะรู้สึกเปลี่ยนไป
คุณอาจพบข้อผิดพลาดบางจุดในงานของคุณทั้งๆ
ทีในระหว่างทำงานคุณไม่เห็นข้อผิดพลาดนั้นเลย
และเมื่อคุณกลับมาทำงานต่อ คุณจะมีความคิด
หรือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
แต่ถ้าคุณทำงานต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดพักเลย
กล้ามเนื้อตาของคุณจะเริ่มล้า ร่างกายของคุณอาจจะเริ่มอ่อนเพลีย
ก็อาจทำให้ได้งานที่ไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวังไว้ เพราะฉะนั้น
คุณควรทำงานสลับกับพักช่วงสั้นๆ ด้วย
ส่วนมากแล้วดิฉันจะวาดภาพครั้งละหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง
แล้วหยุดพักสั้น แล้วกลับมาวาดต่อ
|