PAGE TITLE
 
 
 
กลับหน้าหลัก
บทนำ
การพัฒนาชนบท
การพัฒนาการเกษตร
การพัฒนาแหล่งน้ำ
การพัฒนาและอนุรักษ์ดิน
การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
การพัฒนาชาวเขา
โครงการธนาคารข้าว
โครงการธนาคารโค-กระบือ
โครงการฝนหลวง
หน่วยแพทย์เคลื่อนที่
แก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพ
โครงการศิลปาชีพพิเศษ
กังหันน้ำชัยพัฒนา


                           หน้า  1    2    3  
 

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่

 
 

"...การรักษาความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายเป็นปัจจัยของเศรษฐกิจที่ดีและสังคมที่มั่นคง เพราะร่างกายที่แข็งแรงนั้น โดยปกติจะอำนวยผลให้สุขภาพจิตใจสมบูรณ์ด้วย และเมื่อมีสุขภาพสมบูรณ์ดี พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ย่อมมีกำลังทำประโยชน์ สร้างสรรค์เศรษฐกิจและสังคมของบ้านเมืองได้เต็มที่ ทั้งไม่เป็นภาระแก่สังคมด้วย คือ เป็นแต่ผู้สร้าง มิใช่ผู้ถ่วงความเจริญ..."
พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
ณ มหาวิทยาลัยมหิดล
๒๒ ตุลาคม ๒๕๒๒

 

 
 


ความทั่วไป
          
แม้ว่าการบริการของรัฐด้านสาธารณสุข จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในระยะยี่สิบปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านการรักษาพยาบาล การป้องกันโรคติดต่อ และการส่งเสริมมสุขภาพอนามัย แต่เมื่อพิจารณาถึงการกระจายบริการดังกล่าว พบว่าราษฎรยังขาดแคลนบริการสาธารณสุขขั้นมูลฐานอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองใหญ่ๆ จะเห็นได้ว่าอัตราการตายจากโรคที่ป้องกันได้ อัตราการตายของมารดา อัตราของเด็กขาดอาหาร มีอยู่ในอัตราที่สูง และหากพิจารณาอัตราส่วนของแพทย์ต่อประชากร จะเห็นสภาพปัญหาด้านสาธารณสุขได้ชัดเจนยิ่งขึ้น กล่าวคือ ในขณะที่กรุงเทพมหานคร มีแพทย์ ๑ คน ต่อประชากร ๙๙๘ คน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ แพทย์ ๑ คน จะต้องบริการราษฎรถึง ๒๖,๑๒๘ คน  ๑๒,๙๔๒ คน และ  ๑๔,๖๔๓  คน  ตามลำดับ
          จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ย่อมจะเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของราษฎรในชนบทได้เป็นอย่างดี

          พระราชดำริเกี่ยวกับโครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน
          ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพบว่าราษฎรเป็นจำนวนมากขาดการดูแลรักษาในด้านสุขภาพอนามัย โครงการหน่วยแพทย์พระราชทานจึงได้ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนยารักษาโรค ออกทำการตรวจรักษาและพยาบาลราษฎรโดยไม่คิดมูลค่า ในท้องถิ่นกันดารในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีหน่วยแพทย์ทางราชการเข้าไปถึง และครั้งนั้น ทรงพบอีกว่า ราษฎรป่วยเป็นโรคฟันและโรคในช่องปากจำนวนมาก จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ประกอบด้วยทันตแพทย์ ทันตนามัย รถยนต์ขนาดใหญ่ ๑ คัน มีเก้าอี้ทำฟัน ตลอดจนเครื่องมือทำฟันครบชุด ออกทำการตรวจและรักษาโรคฟันให้แก่ราษฎรพร้อมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
          

          ต่อมา เมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรมเพื่อเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่างๆ โครงการพระราชดำริด้านการแพทย์ จึงได้ขยายขอบข่ายออกไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจแบ่งตามลักษณะงานได้เป็น ๒ ประการ คือ
         ๑.  การให้การบำบัดรักษาโดยการตรวจจากคณะแพทย์พระราชทาน ซึ่งอาจแบ่งออกได้ดังนี้
              ๑.๑  แพทย์ประจำพระองค์ และแพทย์ตามเสด็จ นำโดยนายแพทย์ประจำพระองค์  จะตามเสด็จไปทำการตรวจรักษาราษฎรที่เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมตามหมู่บ้านต่างๆ
              ๑.๒  หน่วยแพทย์หลวงของกองแพทย์หลวง สำนักพระราชวังและเจ้าหน้าที่
              ๑.๓  คณะแพทย์ตามพระราชประสงค์ เป็นแพทย์อาสาที่มาจากหลายสาขาวิชา หลายหน่วยงาน ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะแพทย์อื่นๆ และแพทย์ที่ประจำตามหน่วยรักษาพยาบาลท้องถิ่น คือโรงพยาบาลของจังหวัดที่เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ซึ่งได้แก่ โรงพยาบาลสกลนคร  โรงพยาบาลนราธิวาส  และโรงพยาบาลค่ายกาวิละ จังหวัดทหารบกเชียงใหม่ คณะแพทย์ตามพระราชประสงค์นับว่าเป็นคณะที่มีจำนวนมากที่สุด จากหลายสาขาวิชา อาจแบ่งได้เป็นดังนี้
                 ๑.๓.๑  คณะแพทย์อาสาจากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย

                 ๑.๓.๒  คณะศัลยแพทย์อาสา จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
                 ๑.๓.๓  คณะศัลยแพทย์อาสา จากโรงพยาบาลศิริราช
                 ๑.๓.๔  คณะแพทย์ หู คอ จมูก และโรคภูมิแพ้
                 ๑.๓.๕  หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ จากกรมแพทย์ทหารบก
                 ๑.๓.๖  คณะจักษุแพทย์
                                                                                                                                                             อ่านหน้าต่อไป