ย่านาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Tiliacora triandra (Colebr.) Diels
วงศ์ :
Menispermaceae
ชื่อสามัญ :
Bamboo grass
ชื่ออื่น :
จ้อยนาง (เชียงใหม่) เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว (กลาง)
ยาดนาง (สุราษฎร์ธานี)
ลีกษณะ : ย่านางเป็นไม้เลื้อย
กิ่งอ่อนมีขนอ่อนปกคลุม เมื่อแก่แล้วผิวค่อนข้างเรียบ
รากมีขนาดใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกติดกับลำต้นแบบสลับ
รูปร่างใบคล้ายรูปไข่หรือรูปไข่ขอบขนานปลายใบเรียว ฐานใบมน
ขนาดใบยาว 5 - 10 ซม. กว้าง 2 - 4 ซม. ขอบใบเรียบ
ก้านใบยาว 1 ซม. ดอกออกตามซอกโคนก้านใบเป็นช่องยาว 2 - 5
ซม. ช่อหนึ่ง ๆ มีดอกขนาดเล็กสีเหลือง 3 - 5 ดอก
ดอกแยกเพศอยู่คนละต้นไม่มีกลีบดอก ผลรูปร่างกลมรีขนาดเล็ก
สีเขียว เมื่อแก่กลายเป็นสีเหลืองอมแดงและกลายเป็นสีดำ
ประโยชน์ :
ตำรายาไทยใช้รากต้มกับน้ำ ดื่มเป็นยาแก้ไข้ทุกชนิด
การทดลองพบว่าสารสกัดรากมีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิพารัมในหลอดทดลอง
ชาวอีสานใช้เถาใบอ่อน ใบแก่
ตำคั้นเอาน้ำสีเขียว
และนำไปต้มกับหน่อไม้ปรุงเป็นแกงหน่อไม้ หรือซุบหน่อไม้
บางแห่งนำไปแกงกับขี้เหล็กเป็นการปรุงอาหารที่เชื่อว่าย่านางจะช่วยลดรสขื่นขมของหน่อไม้ได้ดี
ทำให้หน่อไม้มีรสหวาน อร่อย นอกจากนี้น้ำคั้นจากย่านาง
ยังนำไปใส่แกงขนุนแกงอีลอก
อ่อมและหมกซึ่งเป็นอาหารอีสานอีกด้วย
น้ำสีเขียวจากใบย่านางนำไปใช้ย้อมสีผ้าได้อีกด้วย
|