กูดหางค่าง
Pteris biaurita L.,
PTERIDACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: เฟิร์น
เหง้าสั้น ตั้งตรง
มีเกล็ดตอนปลาย
เกล็ดสีน้ำตาลเข้ม
กว้างประมาณ 1 มม.
ยาวประมาณ 5 มม.
ที่ขอบมีขน ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่
กว้าง 25-30 ซม. ยาว 30-60 ซม.
ใบย่อยหยักเว้าลึกโดยเฉพาะใบย่อยคู่ล่างๆ
ทำให้มีลักษณะคล้ายใบประกอบแบบขนนกสองชั้น
ก้านใบสีเขียวหรือม่วงแดง
ยาว 30-60 ซม.
มีเกล็ดสีน้ำตาลที่หลุดร่วงง่าย
ก้านใบด้านบนมีร่องตามยาว
ใบย่อย 5-12 คู่
เรียงตรงข้ามบนแกนกลางใบประกอบ
รูปแถบแกมรูปใบหอก
กว้างประมาณ 5 ซม.
ยาวประมาณ 20 ซม.
ปลายเรียวแหลม โคนสอบ
ขอบหยักเว้าลึกเกือบถึงเส้นกลางใบย่อย
ใบย่อยคู่ล่างหยักเว้าทางด้านใกล้โคนมากกว่าด้านตรงกันข้าม
ใบย่อยเล็กสุดรูปขอบขนานหรือรูปเคียว
ปลายแหลม โคนมน
แผ่นใบค่อนข้างบาง
สีเขียว ผิวเรียบ
เส้นใบสานกันเป็นร่างแหตรงโคนใบ
ส่วนอื่นแยกสาขาเป็นคู่เห็นได้ชัดเจนทั้ง
2 ด้าน กลุ่มอับสปอร์เรียงตัวต่อเนื่องตามขอบใบย่อย
ยกเว้นบริเวณปลายใบและบริเวณที่ขอบใบเว้า
เยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์บาง
และสีซีด
ถิ่นกำเนิด : -
การกระจายพันธุ์ :
พบทั่วไปในเขตร้อนของโลก
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: ทั่วทุกภาค
สภาพนิเวศน์ :
ขึ้นตามไหล่เขาในป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น
บนพื้นที่ระดับต่ำ
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ : -
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช
อักษร ก. กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.