กระเบากลัก
Hydnocarpus ilicifolia
King, FLACOURTIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: ไม้ต้นขนาดกลาง
สูง 15-20 ม.
ลำต้นค่อนข้างเปลา
กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง
กิ่งแก่เกลี้ยง ใบเดี่ยว
เรียงสลับ
รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก
กว้าง 3-7.5 ซม. ยาว 7.5-16 ซม.
ปลายสอบเรียวหรือค่อนข้างเรียวแหลม
โคนสอบหรือมน
ขอบจักฟันเลื่อยห่างๆ
ค่อนไปทางปลายใบ
เส้นแขนงใบเยื้องกันข้างละ
7-10 เส้น
เส้นใบย่อยเป็นร่างแห
ทั้งเส้นแขนงใบและเส้นใบย่อยเห็นได้ชัดทั้ง
2 ด้าน ก้านใบยาว 0.6-1.5 ซม. ดอกแยกเพศ
อยู่ต่างต้น
ออกเป็นช่อกระจุกสั้นตามง่ามใบช่อละ
2-10 ดอก
ก้านช่อดอกยาวประมาณ 1.5
ซม. มีขนสีน้ำตาลแดง
กลีบเลี้ยง 4 กลีบ
ค่อนข้างกลม
เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ
4 มม. กลีบดอก 4 กลีบ
สีขาวหรือเหลืองอมเขียว
รูปขอบขนาน ปลายตัด
ยาวไล่เลี่ยกับกลีบเลี้ยง
มีขนที่ปลายกลีบ
ด้านนอกเกลี้ยง
ที่โคนด้านในมีเกล็ดรูปเกือบสี่เหลี่ยม
ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้
14-20 อัน
ก้านชูอับเรณูสั้น มีขน
ดอกเพศเมียมีเกสรเพศผู้ไม่สมบูรณ์ประมาณ
15 อัน รังไข่รูปไข่
มีขนสีน้ำตาลแดง
ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 4
แฉก ผลกลม
เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-8 ซม.
เปลือกแข็ง ผิวเรียบ
มีขนนุ่มเหมือนกำมะหยี่สีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลดำ
มี 10-15 เมล็ด เมล็ดอัดกันแน่น
รูปไข่ กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว
1.3-2.2 ซม.
ถิ่นกำเนิด : -
การกระจายพันธุ์ :
ภูมิภาคอินโดจีน
และแหลมมลายู
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: ทั่วทุกภาค
สภาพนิเวศน์ :
ขึ้นในป่าเบญจพรรณ
ป่าดิบแล้ง
ตามเขาหินปูน
และใกล้ชายทะเล
บนพื้นที่ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงสูงประมาณ
800 ม.
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ : -
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช
อักษร ก. กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.