กระเบาใหญ่
ชื่อพื้นเมือง :
กระเบา (ทั่วไป),
กระเบาน้ำ
กระเบาเข้าแข็ง
กระเบาใหญ่
กระเบาเข้าเหนียว
แก้วกาหลง (ภาคกลาง),
กระเบาตึ้ก (เขมร,
ภาคตะวันออก),
ตั้วโฮ่งจี๊ (จีน), เบา (สุราษฎร์ธานี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hydnocarpus
anthelminthica Pierre ex Laness.
ชื่อวงศ์ : FLACOURTIACEAE
ชื่อสามัญ : -
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดกลาง
สูง 10-20 ม. ลำต้นเปลา ใบเดี่ยวเรียงสลับ
รูปใบหอกแกมรูปไข่
หรือรูปขอบขนาน
ปลายสอบเรียว
โคนสอบหรือมน
เบี้ยวเล็กน้อย
ขอบเรียบ เส้นแขนงใบ
และเส้นใบย่อยเห็นได้ชัดทางด้านล่าง
ดอกแยกเพศ
อยู่ต่างต้น
ดอกเพศผู้ออกเดี่ยวๆ
ตามง่ามใบ กลิ่นหอมมาก
กลีบเลี้ยง 5 กลีบ
มีขนอ่อนนุ่มทั้ง 2 ด้าน
กลีบดอก 5 กลีบ สีชมพู
เกสรเพศผู้ 5 อัน
ดอกเพศเมียออกเป็นช่อสั้นๆ
ตามง่ามใบ
กลีบเลี้ยงและกลีบดอกเหมือนกับดอกเพศผู้
เกสรเพศผู้ไม่สมบูรณ์ 5
อัน
ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 5
แฉก
รังไข่รูปไข่หรือรูปไข่กลับ
มีขนสั้นๆ ผลกลม
เส้นผ่านศูนย์กลาง 8-12 ซม.
ผิวเรียบ เปลือกแข็ง
มีขนหรือเกล็ดสีน้ำตาล
มี 30-50 เมล็ด อัดกันแน่น เมล็ดรูปไข่
เบี้ยว ปลายทั้ง 2 ข้างมน
ประโยชน์ :
น้ำมันที่บีบได้จากเมล็ดเรียกว่า
น้ำมันกระเบา (Chaulmoogra oil
หรือ Hydnocarpus oil)
มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็น
chaulmoogric acid และ hydnocarpic acid
น้ำมันกระเบานำมาใช้รักษาโรคเรื้อน
และโรคผิวหนังอย่างอื่นอีก
เช่น โรคเรื้อนกวาง หิด
นอกจากนี้
ยังใช้แก้อาการปวดบวมตามข้อ
เนื้อผลกินได้
โทษ : ใบ
และเมล็ดเป็นพิษ มี cyanogenetic
glycoside