กระบกกรัง
Hopea helferi (Dyer) Brandis, DIPTEROCARPACEAE


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15-30 ม. เรือนยอดรูปกรวยคว่ำหรือรูปทรงกระบอก ลำต้นส่วนที่เปลาไม่สูงนักและมักบิด โคนเป็นพอนค่อนข้างสูง เปลือกสีน้ำตาลปนเทาอ่อน แตกเป็นสะเก็ดอ้าทั่วไป มักตกชันสีเหลืองอ่อน เปลือกใต้สะเก็ดสีน้ำตาลแก่ เปลือกชั้นในสีชมพู กระพี้สีเหลืองอ่อนหรือน้ำตาลอมเหลือง แก่นสีน้ำตาลอมแดง กิ่งอ่อนมีขนสากตามปลายกิ่ง กิ่งแห้งสีชมพูคล้ำ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 4-7 ซม. ยาว 9-20 ซม. แต่ขนาดไม่ค่อยแน่นอนนัก ปลายมนหรือหยักคอดเป็นติ่งแหลมสั้นๆ โคนเบี้ยวและหยักเว้า แผ่นใบค่อนข้างบาง ด้านบนเกลี้ยงเป็นมันและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองหรือน้ำตาลแดงเมื่อใบแห้ง ด้านล่างเป็นคราบสีขาวหรือสีเงิน และมักมีตุ่มหูดสีน้ำตาลซึ่งเกิดจากการกระทำของแมลงกระจายห่างๆ เส้นแขนงใบข้างละ 12-15 เส้น เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได เห็นได้ชัดทางด้านล่าง ใบอ่อนสีน้ำตาลอมม่วง ก้านใบมีขนยาวๆ ทั่วไป หูใบเรียวแคบ ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ตามง่ามใบและตามปลายกิ่ง ดอกเล็ก สีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม เรียงเป็นแนวเดียวกันบนก้านแขนงช่อ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ โคนกลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปถ้วย กลีบดอกเรียงซ้อนเวียนกันคล้ายกังหัน ก้านช่อดอก กลีบเลี้ยง และด้านนอกของกลีบดอกมีขนนุ่มทั่วไป รังไข่มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด ผลเล็ก รูปไข่ มีปีกยาว 2 ปีก ปีกสั้น 3 ปีก โคนปีกหุ้มมิดผลตอนล่างแต่ไม่เชื่อมติดกับตัวผล ปีกยาวรูปขอบขนาน กว้างประมาณ 1 ซม. ยาวประมาณ 5 ซม. มีเส้นตามยาวของปีก 7 เส้น เมล็ดแข็ง รูปไข่


ถิ่นกำเนิด : -


การกระจายพันธุ์ : พม่า หมู่เกาะอันดามัน ภูมิภาคอินโดจีน และภูมิภาคมาเลเซีย


การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย : ทั่วทุกภาค


สภาพนิเวศน์ : ขึ้นตามป่าดิบที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 100 ม.


เวลาออกดอก : -


เวลาออกผล : -


การขยายพันธุ์ : -


ความเกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ : -


อ้างอิง : 1) ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช อักษร ก. กรุงเทพมหานคร: เพื่อนพิมพ์.