กระปรอกหางแมว
Asplenium confusum
Tard. et C. Chr., ASPLENIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
: เฟิร์นอิงอาศัย
เหง้าสั้น ตั้งตรง
มีเกล็ดหนาแน่นทั่วไป
เกล็ดสีน้ำตาล รูปใบหอก
กว้างประมาณ 1 มม.
ยาวประมาณ 2 มม.
รากออกเป็นกระจุก
มีรากขนอ่อนสีน้ำตาลทองทั่วไป
ใบประกอบแบบขนนกสามชั้น
กว้าง 10-20 ซม. ยาว 30-40 ซม.
แกนกลางใบประกอบมีร่องตามยาว
ก้านใบมีขนาดและสีต่างๆ
กัน
มักมีสีม่วงแดงหรือดำเป็นมัน
ยาว 20-45 ซม. มีร่องตามยาว
ใบย่อยชั้นที่ 1 มี 10-15 คู่
คู่ที่อยู่ตอนปลายแกนใบออกตรงข้ามกันหรือเกือบตรงข้าม
คู่ที่อยู่ตอนโคนแกนใบเรียงสลับกัน
ใบย่อยชั้นที่ 2
มีก้านใบสั้นๆ
ใบย่อยชั้นที่ 3
กว้างประมาณ 5 มม.
ยาวประมาณ 1 ซม. ปลายใบมน
โคนสอบ ขอบหยักซี่ฟัน
ไม่มีก้านใบ
เส้นแขนงใบแยกสาขาเป็นคู่
เห็นชัดเจนทั้ง 2 ด้าน กลุ่มอับสปอร์เป็นเส้นยาวตามเส้นใบ
ยาว 2-7 มม.
แต่ละส่วนของขอบใบที่เว้ามีกลุ่มอับสปอร์
2-3 กลุ่ม
เยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์เป็นแผ่นบาง
พบเยื่อนี้ตลอดอายุของใบ
ถิ่นกำเนิด : -
การกระจายพันธุ์ :
ภูมิภาคอินโดจีน
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย
: ทั่วทุกภาค
สภาพนิเวศน์ :
ขึ้นบนต้นไม้หรือก้อนหินที่ชื้นในป่าดิบทั้งป่าดิบแล้งและป่าดิบเขา
บนพื้นที่ระดับต่ำถึงที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ
1,600 ม.
เวลาออกดอก : -
เวลาออกผล : -
การขยายพันธุ์ : -
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี
วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ :
-
อ้างอิง : 1)
ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. อนุกรมวิธานพืช
อักษร ก. กรุงเทพมหานคร:
เพื่อนพิมพ์.