หม่อน
ชื่อวิทยาศาสตร์
: Morus
alba L.
วงศ์ :
Moraceae
ชื่อสามัญ
: Mulberry Tree, White Mulberry
ชื่ออื่น :
หม่อน (ทั่วไป)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ต้น ไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร แตกกิ่งก้านมาก ต้นแก่
สีน้ำตาล กิ่งอ่อนสีเขียวอมเหลือง ใบ ใบเดี่ยว
เรยงสลับ ขอบใบหยักและเป้นริ้วเล็กน้อย ปลายใบแหลม
ใบกว้าง 8-14 เซนติเมตร ยาว 12-16 เซนติเมตร
ผิวใบเกลี้ยงแต่สาก ดอก ดอกช่อ สีครีมอมเขียว
ช่อดอกรูปทรงกระบอก ออกบริเวณซอกใบ
ดอกย่อยมีขนาดเล็กมีกลีบดอก 4 กลีบ
ดอกแยกเพศแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ผล ผลรวม
รูปทรางกระบอกป้อม ๆ ขนาดกว้าง 0.5-1 เซนติเมตร ยาว
2-3 เซนติเมตร ผลนิ่มอวบน้ำเมื่อสุกสีแดงอมม่วง
ประโยชน์ :
การศึกษาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลอง พบว่า
สารสกัดหรือสารสำคัญของหม่อนมีฤทธิ์ทางยาหลายประการ
ดังนี้
1. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอินสระ
น้ำคั้นและสารสกัดจากใบมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด
และมีสารสำคัญที่ยับยั้ง oxidation ของ LDL ได้
2. ฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเมลานิน (melanin) สาร
2-oxyresveratrol จากกิ่งหม่อน และสาร mulberroside F
จากใบและสารสกัดจากเปลือกราก มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์
tyrosinase
ซึ่งเกี่ยวข้องในขบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนัง
จึงมีการนำสารสกัดรากหม่อนมาใช้เป็น whitening agent
ในเครื่องสำอาง
3. ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดด้วยน้ำและสาร 2-O- ?
-D-galactopyranosyl-1-deoxynojirimycin (GAL-DNJ)
จากใบหม่อน มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในสัตว์ทดลองที่เป็นเบาหวาน
และสาร 1-deoxynojirimycin ,ฤทธิ์แรงในการยับยั้งเอนไซม์
?-glucosidase ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
จึงช่วยยับยั้งการย่อยแป้งในอาหารช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ทำให้ใบหม่อนมีศักยภาพในการนำมาใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน
หรือใช้ควบคุมน้ำหนัก
4. ฤทธิ์ลดความดันโลหิต
สารสกัดเอธานอลจากใบและบิวทานอลจากเปลือกราก
มีสารฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต
ในหนู
5. ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่น ๆ
เมื่อศึกษาในหลอดทดลองสารสกัดและสารสำคัญจากเปลือกรากหม่อนมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ของเชื้อเอชไอวี
ฤทธิ์ต้านเชื้อรา
และต้านเชื้อไวรัสที่ก่อโรคเริมที่อวัยวะเพศ
ส่วนการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบฤทธิ์แก้ไอ ขับปัสสาวะ
ลดอาการบวม และฤทธิ์สงบประสาท
ที่มาของข้อมูล :
สถาบันแพทย์แผนไทย
|